
สร้าง "บ้านที่ปลอดภัย" ศิลปะแห่งการเป็นพ่อแม่
พ่อแม่สามารถเป็น “บ้านที่ปลอดภัย” ให้กับลูกได้ ด้วยการสร้างความสัมพันธ์ที่มั่นคงและอบอุ่น
ในยุคที่เด็กเติบโตอย่างรวดเร็วในโลกที่เปลี่ยนไปทุกวัน กาลเทศะกลายเป็น "ทักษะสำคัญ" ที่ช่วยให้ลูกสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างกลมกลืนและได้รับการยอมรับ กาลเทศะไม่ใช่เพียงมารยาท แต่เป็นการเคารพกติกาสังคม การรู้เวลา สถานที่ และสถานการณ์ที่เหมาะสม
กาลเทศะจะเกิดขึ้นได้จริงก็ต่อเมื่อพ่อแม่ปลูกฝังจนเป็นนิสัย ไม่ใช่เพียงการสอนแบบชั่วครั้งชั่วคราว มาดูวิธีที่พ่อแม่สามารถทำให้กาลเทศะกลายเป็นนิสัยติดตัวลูกกันค่ะ
➊. สร้างวินัยทางสังคมอย่างสม่ำเสมอ
พฤติกรรมบางอย่างเด็กจะซึมซับได้จาก "ความต่อเนื่อง" มากกว่าคำสอนเพียงครั้งเดียว เช่น สอนให้ลูกพูด ขอบคุณ ขอโทษ ขออนุญาต อย่างสม่ำเสมอ ฝึกให้ลูก รอคิว แม้ในสถานการณ์เล็ก ๆ เช่น รอเล่นของเล่น รอพูดในวงสนทนา สร้างกติกาในบ้าน เช่น เวลากินข้าวต้องเก็บโทรศัพท์ เวลาผู้ใหญ่คุยควรรอฟังให้จบ สิ่งเหล่านี้จะกลายเป็นวินัยทางสังคมที่ติดตัวเขาไปเองเมื่อเติบโตขึ้น
➋. สอนด้วยการชวนลูกคิด ไม่ใช่การสั่งสอน
การสั่ง "ห้ามทำ" หรือ "ต้องทำ" อาจทำให้เด็กทำตามเพราะกลัว แต่ไม่ได้เข้าใจว่าเพราะอะไร ลองเปลี่ยนเป็นการถาม เช่น
"หนูคิดว่าเราควรพูดอะไรกับเพื่อนเมื่อทำของเพื่อนพัง ?"
"ถ้าเราไปเที่ยวที่เงียบ ๆ แล้วส่งเสียงดังจะเกิดอะไรขึ้นกับคนอื่น ?"
การชวนคิดจะช่วยให้ลูกเชื่อมโยงเหตุและผลด้วยตัวเอง และเข้าใจคุณค่าของกาลเทศะที่เขากำลังเรียนรู้
➌. ให้คำชมเชยเมื่อลูกทำได้ดี
เด็กจะเรียนรู้เร็วขึ้นเมื่อได้รับ "แรงเสริม" ที่เป็นบวก พ่อแม่สามารถให้กำลังใจเมื่อลูกทำถูกต้อง เช่น
"แม่ชอบที่หนูพูดขอบคุณเมื่อได้รับของเล่นจังเลย"
"หนูรอคิวเล่นของเล่นได้เก่งมากเลย"
คำชมเชยที่เจาะจงจะทำให้ลูกเห็นคุณค่าของพฤติกรรมดี ๆ และอยากทำซ้ำ
กาลเทศะไม่ใช่เรื่องโบราณ แต่เป็นทักษะที่จำเป็นสำหรับเด็กยุคใหม่ การปลูกฝังกาลเทศะให้เป็นนิสัยของลูก ไม่ใช่การบังคับ แต่คือการสร้างวินัยอย่างต่อเนื่อง สอนด้วยการชวนคิด และให้กำลังใจในทุกก้าวเล็ก ๆ ของลูก พ่อแม่คือคนสำคัญที่ทำให้กาลเทศะกลายเป็นเรื่อง "ธรรมชาติ" สำหรับลูกในทุก ๆ วัน
✱ ติดตามข่าวสารและกิจกรรม Thai PBS Kids ได้ทาง Website | Facebook | Youtube | LINE Official ✱